พะโล้แห้ง และ ก๊วยจั๊บหมูใบกุยช่าย
พะโล้แห้ง และ ก๊วยจั๊บหมูใบกุยช่าย อันแรกเป็นของไปทำบุญวันสงกรานต์ค่ะ ส่วนจานหลังเป็นอาหารต่อยอดวันรุ่งขึ้นค่ะ ฝีมือแม่ล้วนๆ เลย
ไม่รู้ว่าแถวอื่นมีขายก๊วยจั๊บใบกุยช่ายแบบนี้ไหมนะคะ ที่แน่ๆ ของแท้ต้องตลาดนครปฐมค่ะ เก่าแก่มาก แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่ายังขายอยู่ไหม ไม่ได้ไปทานมากแล้วล่ะค่ะ พอทานก๊วยจั๊บทั่วๆไปที่ใส่ต้นหอมทีไร ก็จะนึกถึงตอนเด็กๆที่กินทู๊กที น่าจะเพราะว่ามันเสียเวลาผัดใบกุยช่ายด้วยละมั้งถึงไม่ค่อยทำขายกัน
วันนี้เดี๋ยวพาไปดูแม่ทำกับข้าวกันค่ะ แต่ไม่มีรูปพะโล้แห้งนะคะ ทำไว้ก่อนหนึ่งวัน แล้วตักไปทำบุยเช้าวันรุ่งขึ้น รีบๆกัน ไม่มีเวลาถ่ายรูปเลย
พะโล้แห้ง
ส่วนประกอบ
(1 หม้อใหญ่...มาก^^)
หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม
ไข่ไก่ 15 ฟอง
เต้าหู้แข็งสีขาว 5 ก้อน
เห็ดหอม 20 ดอก
พริกชี้ฟ้าแดง 10 เม็ด
ผงพะโล้สำเร็จรูป 3 ซอง
น้ำสะอาด
คุณแม่เลือกใช้ผงพะโล้ซองสำเร็จค่ะ ง่ายดี ไม่ต้องผัด เลือกยี่ห้อที่ชอบนะคะ แบ่งมา 1 ซอง ผสมน้ำเล็กน้อยพอข้นๆแล้วหมักกับหมูสามชั้นที่ล้างสะอาดดึงขนออกให้เกลี้ยง หั่นเป็นชิ้นหนาชิ้นละ 1/2 ซม. หมักทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงค่ะ ในรูปจะเห็นกระดูกหมูด้วยนะค่ะ แบบว่ามันมีอยู่ในตู้เย็น คุณแม่ก็จับมาทำซะเลย ไม่อย่างบอกว่าทำเสร็จแล้วกระดูกหมูเปื่อยหลุดจากกระดูก พะโล้เข้าเนื้อแล้วอร่อยมาก
มาต่อกันที่เต้าหู้ค่ะ ผ่าเป็น 4 ส่วนตามเส้นทะแยงมุมค่ะ แล้วเอาลงทอดในน้ำมันร้อนๆจนผิวเหลืองสวย
รวบรัดกันเลยค่ะ ตั้งน้ำละลายผงพะโล้ 2 ซองลงไป ปริมาณน้ำกะให้พอท่วมของที่เราจะใส่ลงเคี่ยวไม่ต้องท่วมขนาดทำพะโล้ทั่วๆไปค่ะ พอน้ำเดือดทั่ว เอาหมูที่หมักไว้ใส่ลงไปค่ะ พอเดือดอีกครั้งก็ใส่เห็ดหอมที่แช่่น้ำจนนิ่มลงไปพร้อมน้ำแช่เห็ดหอม ตามด้วยพริกชี้ฟ้าที่ล้างสะอาดแล้ว เบาไฟเป็นไฟกลาง เคี่ยวจนหมูเปื่อย แล้วใส่เต้าหู้ที่ทอดแล้วลงไปตามด้วยไข่ต้มปอกเปลือก เคี่ยวให้เต้าหู้เปื่อยชุ่มน้ำพะโล้ ไข่สีน้ำตาลสวยและแข็งเหนียวขึ้น น้ำจะงวดลงพอคลุกคลิกไม่ต้องเติมน้ำเพิ่มนะคะ ปรุงรสให้ออกหวานนิดหน่อย เค็มนำ จะมีรสเปรี้ยวจากพริกออกมานิดๆตัดเลี่ยน พอจะทาน ก็ตักเต้าหู้ หมู และ ไข่ใส่จาน ราดน้ำพะโล้นิดหน่อย ทานกับข้าวสวยร้อน ๆอร่อยเหาะค่ะ ฝีมือแม่ ตักไปทำบุญครึ่งหนึ่ง ที่เหลือเก็บไว้ทำก๊วยจั๊บกันค่ะ
ก๊วยจั๊บหมูพะโล้ใบกุยช่าย
ส่วนประกอบ
พะโล้จากด้านบน
เลือดหมู 2 ก้อน
ไส้หมู 1/2 กิโลกรัม
รากผักชี 5 ราก
กระเทียมกลีบใหญ่ปอกเปลือก 5 กลีบ
ใบกุยช่าย 1/2 กิโลกรัม
เส้นก๊วยจั๊บ
ถั่วงอก
น้ำส้มพริกตำ/กระเทียมเจียว/น้ำตาล/น้ำปลา/พริกไทยป่น/เกลือป่น/พริกป่น
จากพะโล้ของเรา เติมน้ำลงไปเพิ่มค่ะ ตามด้วยรากผักชีและกระทียมปอกเปลือกบุบนิดหน่อย ระหว่างรอเดือด ล้างและหั่นเลือดหมูเป็นชิ้นๆ ลวกน้ำทิ้ง 1 น้ำพักไว้ค่ะ ส่วนไส้หมู ให้กลับด้านเอาด้านในออกมา ใช้ช้อนสแตนแลตขูดๆเอาเมือกขาวๆออกให้หมดค่ะ แล้วขยำกับเกลือ ล้างให้หมดคาว แล้วล้างด้วยนำส้มสายชูอีกครั้ง สุดท้ายล้างด้วยน้ำสะอาดก่อนเอาไปหั่นเป็นท่อนๆพอคำค่ะ
พอน้ำซุปเราเดือด ก็ใส่เลือดหมูลวกกับไส้อ่อนลงไป ตามด้วยเกลือป่น1ช้อนชา ต้มให้เดือดอีกครั้ง ช้อนฟองออก เ้บาไฟเคี่ยวให้ไส้เปื่อย ชิมและปรุงรสให้ออกเค็ม ไม่มีหวานชัดเจนนะคะ รสชาติจะจางกว่าพะโ้ล้หม้อเดิมของเรา ถ้าไม่กลมกล่อมให้เติมผงปรุงรสเพิ่มค่ะ
ล้างและหั่นใบกุยช่ายเป็นท่อนสั้นๆแบบในรูป เอาไปผัดกับน้ำเปล่าปริมาณน้ำเท่ากับปริมาณใบกุยช่าย 1: 1 ผัดจนใบสลบ เติมเบกกิ้งโซดาไป 1/2 ช้อนชา ผัดให้เดือดทั่ว ปิดไฟค่ะ ตักใส่ถ้วยเอาไว้
ตั้งน้ำสำหรับต้มเส้นก๊วยจั๊บ เส้นก๊วยจั๊บให้เลือกเส้นที่เหนี่ยวนุ่มคุณภาพดีนะคะ เอามาแกะเป็นแผ่นเดี่ยวๆ พอน้ำเดือด ค่อยๆแบ่งเส้นใส่ลงไป แล้วใช้ทัพพีคนๆอย่าให้จับตัวกัน มือหนึ่งคน อีกมือเติมเส้นเพิ่มลงไป วิธีนี้จะได้เส้นที่แยกเป็นม้วนเล็กๆไม่เกาะกันค่ะ ต้มพอเดือดสัก 1 นาที เส้นใสม้วนแน่น ปิดไฟเลย ความร้อนจะระอุให้เส้นนิ่มขึ้น ถ้าชอบเหนียมหน่อยก็ทานตอนปิดไฟใหม่ๆนะคะ แต่ถ้าชอบนิ่มมากขึ้นก็รอให้ระอุก่อนค่ะ หรือจะต้มนานกว่านี้ก็ได้นะคะ แต่ระวังตรงที่ว่า ถ้าทิ้งที่เหลือแช่น้ำไว้นาน เส้นจะเละตักไม่ได้ค่ะ
พอจะทาน ก็ตักเส้นลงชาม ราดน้ำซุป วางถั่วงอก(ใครชอบนิ่มๆเอาไปลวกก่อนนะคะ) ตักใบกุยช่ายวาง โรยพริกไทยป่นและกระเทียมค่ะ พร้อมทานแล้วววววว
ชามนี้ครบค่ะ เต้าหมู หมู ไส้ ไข่ จัดไปอย่าให้เสีย อิอิ
จานขวามือ เป็นฝีมือแขค่ะ ทำไว้นานแล้ว ใส่แต่หมูสามชั้น วางด้วยไข่ต้มยางมะตูม โรบต้นหอมซอย หน้าตาพอไปวัดไปวาได้ แต่รสชาติยังแพ้คุณแม่ทำอีกเยอะค่ะ ^___________^
0 comments:
แสดงความคิดเห็น