แกงเผ็ดเป็ดย่าง : Red curry with roast duck

แกงเผ็ดเป็ดย่าง (เวอร์ชันเป็ดย่างแท้ๆ)
 Red curry with roasted duck


         มาอีกแล้วค่ะ แกงเผ็ดเป็ดย่าง จากที่บล๊อกก่อนหน้านี้เคยลงไว้รอบนึงแล้ว แต่ครั้งนั้นเป็นแกงเผ็ดเป็ดพะโล้ซะมากกว่า เหอๆ แถมรูปก็มืดๆไม่สวยอีก ก็เลยขอแก้มือค่ะ แต่ใช่ว่าจะอยากแก้มือเลยไปซื้อเป็ดย่างมาเพื่อการนี้นะคะ ก็วันนี้ไหว้เช้งเม้งนี่ค่ะ เลยมีป็ดย่าง 1 ตัว เห็นของไหว้ปั๊บตาโตเลย แหม ก็เพราะจะได้เวลา Revenge of red curry with roasted duck นั่นแหละ เอิ๊กๆ แล้วรู้ไหมค่ะว่า ผลวิจัยล่าสุดจากมหาบัณฑิต สาขาพิษวิทยาทางอาหารและโภชนาการ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า 22 ตำรับอาหารไทยช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงมะเร็งได้ และ “แกงเผ็ดเป็ดย่าง” ก็เป็น 1 ในเมนูอาหารที่สามารถต้านมะเร็งได้ค่ะ แหล่มแจ่มแมวเลยนะได้รู้อย่างนี้ 


          ผลการแก้มือก็ออกมาดีสมความตั้งใจค่ะ ไม่ได้ชมตัวเองนะคะ แต่เพราะตักแบ่งไปให้บ้านน้าซึ่งมีแขกพอดี เขาชิมแล้วก็ชมกัน เราก็หน้าบานไป อิอิ จริงๆจะทำแค่ครึ่งตัวค่ะ แต่หลังจากตักไปให้หลายๆบ้านก็เลยต้องกลับมาเติมอีกครึ่งตัวไว้ทานเองเนี่ยแหละ เป็ดย่างก็เลยหมดในเมนูเดียว จริงๆตั้งใจจะเก็บไว้ทำบะหมี่หน้าเป็ดด้วย แต่ไม่เป็นไรค่ะ ชอบเวลาน้าๆพี่ๆได้กินอาหารฝีมือเรามากกว่า มันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ มาดูวิธีทำครั้งนี้กัน ไม่ต่างจากคราวก่อนมากหรออกค่ะ ต่างที่ลำดับการใส่นิดหน่อยเอง 

ส่วนประกอบ

เป็ดย่าง 1/2 ตัว
พริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะพูน
กะทิ 1 กล่อง(500 มล.)
มะเขือ 5 ลูก
มะเขือเทศสีดา 7 ลูก
สัปปะรดหรือผลไม้รสเปรี้ยว 1 ชิ้นขนาดกลาง
ใบโหระพา 1 ต้นใหญ่
พริกชี้ฟ้าเขียวแดง 4 เม็ด
น้ำสะอาด/น้ำตาลมะพร้าว/น้ำปลา/เกลือ/ซุปไก่ก้อน/ซุปผงรสไก่


  1.       เริ่มจากจัดการเป็ดค่ะ สัปเอาแขนขาเป็ดแยกออกไปก่อน (เป็ดมีแขนด้วยหรอเรา 55+) ส่วนของตีนเป็ดแข็งๆก็แยกออกไปเลยค่ะ ไม่เอามาใช้จะดีกว่า แล้วก็แบ่ง1/2ตัว สับเป็นชิ้นพอคำไม่เล็กมากเกินไปค่ะ เดี๋ยวเละ เลาะกระดูกออกซะจะได้ทานง่ายๆ
  2. ล้างมะเขือ มะเขือเทศและสัปปะรด หั่นมะเขือผ่า 4 หรือตามขนาดที่พอเหมาะแช่น้ำเกลือไว้จะได้ไม่ดำนะคะ(วันนี้ใช้หั่นลงหม้อเลยค่ะ ขี้เกียจแช่เกลือ) มะเขือเทศเด็ดขั้วออก พักไว้ ส่วนสัปปะรดก็หั่นเป็นชิ้นเล็กๆพอดีๆ กะให้ขนาดพอดีกับมะเขือเทศอ่ะค่ะ อย่าให้เล็กเกินไป (ควรเป็นสัปปะรดอมเปรี้ยวมากสักหน่อยนะคะ) พริกก็จับหั่นแฉลบๆบางๆไว้ สุดท้ายก็เด็ดใบโหระพารอไว้
  3. ตั้งหม้อค่ะ ใส่น้ำมันพืชลงไป2 ช้อนโต๊ะ แล้วเอาพริกแกงลงไปผัด ใครชอบเผ็ดจะใส่มากกว่านี้ก็ไม่ว่ากันค่ะ  ผัดจนพริกแกงหอมแตะจมูกเรา ก็เติมกะทิลงไปนิดหน่อย ผัดให้เข้ากับพริกแกง จนแตกมันค่ะ 
  4. เอาเป็ดลงไปผัดเบาๆถ้าแห้งก็เติมกะทิอีกนิดหน่อยค่ะ ผัดสักพักให้เนื้อเป็ดดูดพริกแกงเข้าเนื้อดี ก็เติมกะทิลงไปหมดกล่องเลย ตั้งไฟพอดเือดเบาไฟเป็นไฟกลาง เคี่ยวเป็ดอีกสัก 2 นาที ระหว่างนี้เติมเกลือป่นไป 1/2 ช้อนชาค่ะ เกลือจะช่วยดึงความหวานจากกะทิออกมา
  5. เป็ดเปื่อยดี เติมน้ำสะอาดลงไป 1 กล่องกะทิ แล้วใส่มะเขือลงไป กดให้จมน้ำแกงดี พอมะเขือสุก ใส่มะเขือเทศกับสัปปะรดลงไป (จริงๆอยากให้เคี่ยวสัปปะรดก่อนใส่มะเขือเทศนะคะ ความเปรี้ยวจะออกมามากกว่า)  พอทุกอย่างสุก เบาไฟ ปรุงรสด้วยซุปก้อน 1 ก้อน กับซุปผงอีกสัก 1 ช้อนชา น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ แล้วชิมดูค่ะ ให้ออกเผ็ด เค็ม หวานกับเปรี้ยวนิดๆ กลมกล่อม ได้แล้วก็เร่งไฟให้เดือดเข้าเนื้ออีก 1 นาที ใส่พริกและใบโหระพาลงไปแล้วปิดไฟทันที เสร็จพร้อมทานแล้วค่ะ
*สามารถใส่องุ่นเปรี้ยว/ลิ้นจี่ เพิ่มได้ค่ะ ถ้ายังไม่เปรี้ยว อาจเพิ่มน้ำมะขามเปียกนิดหน่อย รสเปรี้ยวจะลดความเลี่ยนของแกงค่ะ 

น่าทานไหม?


ถ้ามีบะหมี่หยกนะ สุดยอดเลย 
แต่วันนี้ด้วยความเป็นเด็กเส้นค่ะ เลยลวกเส้นมาม่า แล้วราดน้ำแกงชุ่มๆ สุดยอดไปเลย ไม่เชื่อต้องลองค่า
เวลาทานให้มีชิ้นเป็ด มะเขือและสัปปะรดใน1คำนะคะ เหมือนทานบาบีคิวยังไงยังงั้นเลยล่ะ



0 comments:

แสดงความคิดเห็น

.
Morningglory Khae. ขับเคลื่อนโดย Blogger.