ปุยฝ้ายนมสดและปุยฝ้ายมะพร้าวอ่อน
Stream cotton cake
ปุยฝ้ายนมสด และ ปุยฝ้ายมะพร้าวอ่อน
ในวันตรุษจีน มีใครทำขนมไหว้เองมั๊ยค่ะ ขนมหลักที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลนี้ คงหนีไม่พ้น ขนมเทียน ขนมเข่ง และ ปุยฝ้ายแน่ๆ
จริงๆแล้วปกติก็ซื้อเอาแหละค่ะ เพราะไม่เคยมีความคิดจะทำขนมที่ใช้ sp เลย ไม่ใช่เพราะหา sp ไม่ได้หรอกนะคะ แต่เพราะกลัวไม่สำเร็จต่างหาก :)
แต่ปีนี้ฮึกเหิมค่ะ เพราะมีคำสบประมาทมาว่าทำไม่ได้เลยไม่ทำ แหม...ฟังแบบนี้แล้วมีแรงฮึดเชียว ไม่มีเครื่องผสม จะทำไม่ได้เชียวหรือ ไม่หรอก ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็นอนรออยู่ที่นั่นแล้ว สู้ๆค่ะ
สูตรปุยฝ้ายนี้ ใช้สูตรเดียวกันนะคะ เพียงแต่เปลี่ยนน้ำและนมเป็นน้ำมะพร้าวน้ำหอมในสูตรของปุยฝ้ายมะพร้าวอ่อนค่ะ อร่อยทั้งคู่ ไม่เชื่อต้องลองทำเองแล้วล่ะค่ะ
- แป้งเค้ก 220 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- ไข่ไก่เบอร์0 1 ฟอง
- SP 20 กรัม(ใส่แค่ 12 กรัมค่ะกลัวเนื้อขนมหยาบเพราะเราตีด้วยตระกร้อมือ)
- น้ำเปล่า 100 กรัม (ครึ่งถ้วยตวง)
- น้ำตาลทรายขาว 180 กรัม
- นมข้นหวาน 2 ช้อนโต๊ะ(ไม่ได้ใส่ค่ะ)
- น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
- นมสด 1/2 ถ้วยตวง (เตรียมเผื่ออีกเล็กน้อย)
- กลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา
ตั้งน้ำรอไว้ตั้งแต่เริ่มเลยค่ะ ระดับน้ำในซึ้งต้องสูงมากกว่าครึ่งซึ้งนะคะ ไม่เช่นนั้น ไอน้ำจะไม่ถึงขนมค่ะ เริ่มต้น ร่อนแป้ง ผงฟู ไว้สัก2รอบนะคะ
มาลงมือทำกันเลย....ป้าย sp ไว้ที่หัวตระกร้อเลยค่ะ แล้วตีกับน้ำเปล่าจนเป็นฟองละเอียดเบาๆแบบรูปด้านล่างค่ะ ใช้มือตีไปประมาณ 4 นาทีได้
แบ่งน้ำตาลใส่ทีละน้อย แล้วตีให้เข้ากันก่อนเติมน้ำตาลเพิ่ม จนหมด สุดท้ายจะได้ส่วนผสมที่ฟูขาวข้นเล็กน้อย มีน้ำตาลกระจายทั่วๆค่ะ
ตอกไข่ใส่ลงไปค่ะ ถ้าใครกลัวทำเปลือกไข่ตกลงไป ให่ตอกไข่ใส่ชามไว้ก่อนค่ะ จะตีไข่ให้แตกก่อนก็ได้
จากนั้นก็ตีเร็วๆให้เข้ากัน ส่วนผสมแรกๆจะมีสีครีมแบบสีไข่ไก่นะคะ ตีไปเรื่อยๆด้วยความเร็วสม่ำเสมอจนสีขาวมากที่สุดเท่าที่จะมีแรง อิอิ
ส่วนผสมจะเพิ่มขึ้นมาเกือบ2เท่าเชียวค่ะ ตอนนี้ (เป็นสาเหตุที่ตัดสินใจใช้หม้อทรงสูงมาเป็นภาชนะ)
ลักษณะส่วนผสมที่ได้จะข้นมากนะคะ ถ้าลองยกหัวตระก้อแล้วปล่อยให้ของเหลวไหล จะไหลช้าๆเป็นแถบต่อเนื่องกัน แล้วจะเห็นรอยทบพับชัดเจน ไม่ใช่รวมกันหายไปเร็วๆ แบบนั้นแสดงว่ายังตีไม่ได้ที่ค่ะ (สามารถเช๊คได้ด้วยการเอาไม้จิ้มฟันสะอาดปักลงไปตรงกลาง ถ้าไม้ไม่ล้มหรือเอียงจมในส่วนผสมแสดงว่าใช้ได้ค่ะ)
แบ่งใส่แป้งเป็น 3 รอบนะคะ
แป้ง-นม-แป้ง-นม(จะเติมน้ำมะนาวลงไปในนมส่วนนี้ก็ได้ค่ะ)-แป้ง
(คือเริ่มด้วยแป้งจบด้วยแป้ง)
การทำแบบนี้ จะทำให้ของแห้งอุ้มของเหลวไว้ได้ทั่ว และ แป้งไม่จับเป็นก้อนค่ะ แม่สอนมา ^^/
ทุกครั้งที่ใส่แป้งหรือนม ให้ผสมอย่างเบามือแต่เร็วๆนะคะ ไม่จำเป็นต้องเข้าเป็นเนื้อเดียวทุกครั้ง เอาแค่พอเข้ากันบ้าง การผสมมากๆจะเหนียวค่ะ เดี๋ยวขนมไม่ขึ้นฟูสวย
สุดท้ายแล้วจะได้ส่วนผสมเนียนๆแบบนี้ ลองเช๊คก้นภาชนะดีๆนะคะว่าไม่มีแป้งหรือของเหลวตกค้างอยู่
ถ้าได้เรียบร้อย ก็ตักแบ่งผสมสีตามชอบเลยค่ะ
ตอนหยดสีให้เบามือสักหน่อย ใส่ทีละน้อย ให้สีอ่อนเข้าไว้ เพราะนึ่งแล้วสีจะเข้มขึ้นอีกเท่าตัวเลยค่ะ
ขั้นตอนนี้ให้ลองสังเกตส่วนผสมก่อนนิดนึงว่า ข้นเกินไปหรือไม่ โดยใช้ช้อนลองตักขึ้นมาแล้วเทกลับลงไป ถ้าส่วนผสมยังเป็นก้อนไม่มีวี่แววจะแบบตัวลงรวมกับส่วนอื่น ให้เติมนม หรือน้ำมะพร้าวลงไปทละน้อยค่ะ ผสมแล้วเทสดู ส่วนผสมที่ดีจะไม่ข้นเกินไป เพราะนึ่งแล้วโอกาสหน้าขนมไม่แตกมีสูงค่ะ เคยลองมาแล้ว
ส่วนการเติมของเหลวลงไปทีหลังแบบนี้ จริงๆไม่ถูกหลักการนะคะ ถ้าให้ดีควรเช๊คตั้งแต่ก่อนเติมแป้งครั้งที่3
แต่ถ้าของเหลวไม่มากนัก ขนมไม่เสียค่ะ ทำมาแล้วเหมือนกัน เพียงแต่ต้องคนส่วนผสมให้ทั่วเท่านั้นเอง
อันนี้เป็นสูตรที่ใช้น้ำมะพร้าว ก็เติมเนื้อมะพร้าวหั่นเต๋า 200 กรัม ลงไป ผสมให้กระจายทั่ว ไม่ต้องผสมสี ค่ะ (อ้อ อันนี้ใช้กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา แทนกลิ่นมะลินะคะ ส่วนตัวคิดว่าเข้ากันมากกว่า แต่ใครมีกลิ่นมะพร้าวก็นำมาใช้เลยค่ะ)
ตักลงถ้วยนึ่งได้เลย วันนี้ตั้งใจทำขนาดคัพเค้กค่ะ และเลือกถ้วยกระดาษสีตัดกัน ชอบ colorful ฮ่า
ถ้าอยากให้ขนมบานสวย ตักให้เต็มถึงขอบถ้วยเลยค่ะ ที่เห็นตักน้อยเพราะหมดแรงตี 2 สูตรค่ะ เลยลดปริมาณเพื่อเพิ่มจำนวน (ชุดนี้ทำให้ 3 บ้านแหนะค่ะ ><*) แล้วโรยผลไม้แห้งลงไป วางต่ำๆเบาๆนะคะ เดี๋ยวหน้าขนมยุบหมดค่ะ
เอาขึ้นนึ่ง
ข้อควรระวังมากๆคือ ฝาลังถึงต้องแห้งนะคะ เช็ดน้ำออกให้แห้งเลย ใครจะห่อผ้าก็ไม่ว่ากันค่ะ เพราะถ้ามีน้ำหยดลงหน้าขนมทั้งก่อนและหลังนึ่ง ขนมจะด่างค่ะ
หลังจากยกขึ้นนึ่งแล้ว ให้ลดไฟเป็นไฟอ่อน(ก่อนหน้าเอาลังถึงที่มีขนมขึ้นวาง น้ำต้องเดือดพล่านแบบที่ไอน้ำพวยพุ่งทุกครั้งนะคะ)
นึ่งขนม 12-15 นาทีแล้วแต่ขนาดถ้วยค่ะ แต่ที่ทำใช้เวลา 13-14 นาทีขนมก็สุกแล้ว บางคนเห็นหน้าขนมแตกสวย แต่ก้นขนมยังเหลวอยู่ อันนี้ต้องเพิ่มเวลานึ่งมากขึ้นค่ะ
ขนมที่สุกแล้ว ให้เปิดฝาตรงๆแล้วยกออกไปเลยนะคะ ทิ้งไว้น้ำจะหยดลงหน้าขนม หมดสวยแน่ๆ
แล้วรีบยกขนมออกจากลังถึง คว่ำบนตระแกรงให้เร็วที่สุด กันก้นขนมแฉะค่ะ
พอขนมแห้งดี เก็บใส่ภาชนะกันลม ขนมจะนิ่มหน้าไม่แห้งได้นาน 2 วัน
เนื้อขนมฟูเบา อร่อยมากค่ะ ไม่หวานจัด ไม่ฝืดคอแบบที่ต้องกินขนม1คำ น้ำ 1แก้วแน่ๆ
อันนี้รับประกันได้
มีเคล็ดลับมาฝากนิดนึงค่ะ คือถ้าใครทำแล้วหน้าขนมไใ่ยอมแตกสักที
ให้ใช้ไม่จิ้มฟันปลายแหลม จุ่มน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูแล้วสะบัดออก กรีดหน้าขนมค่ะ ต้องจุ่มใหม่ทุกครั้งก่อนกรีดนะคะ คือ กรีดแล้วเช็ดออก จุ่มแล้วกรีด รับรองจะได้ปุยฝ้ายหน้าแตกสมใจแน่ๆ ยายสอนมาค่ะ เคยอ่านมาจากหลายๆที่ ก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถ้าเราทำตามขั้นตอน ขนมก็จะหน้าแตกสวยโดยไม่ต้องกรีดให้เสียเวลาแล้วค่ะ
ขอให้อร่อยกับเมนูนี้นะคะ
1 comments:
ขอบคุณค่ะ น่ากินมากเลยจะลองทำดูน่ะค่ะ
แสดงความคิดเห็น